จากตอนที่ได้งานมา ก็เลยมองๆหนังสือที่ได้รางวัลซีไรต์ไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดตากับเล่มนี้นี่แหละครับ อ่านเกริ่มนำแล้วดูน่าสนใจดี เลยสอยมาอ่านซะเลย
"อมตะ" เป็นผลงานของ วิมล ไทรนิ่มนวล และได้รับรางวัลซีไรต์ประจำปี พ.ศ. 2543 ครับ เนื้อหาจะเป็นการนำเอาความเป็นไซไฟอย่างการโคลนนิ่งมาผสานเข้ากับประเด็นทางพุทธศาสนาอย่างเรื่องกฎไตรลักษณ์และเรื่องของจิตมารวมไว้ด้วยกัน
แค่เห็นพล็อตก็น่าสนใจแล้ว
หนังสือเล่มก็ไม่หนามากครับ อ่านไม่กี่ชั่วโมงก็จบ ถือว่าเป็นหนังสือที่ดีพอสมควร มีการนำตัวละครหลักในเรื่องทั้งสองตัวมาโต้ตอบกัน โดยแนวคิดของแต่ละฝ่ายเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ได้เลยทีเดียว การโต้ตอบกันทางคำพูดและการกระทำของตัวละครทั้งสองตัวนี้จึงเปรียบได้กับเป็นการวิวาทะกันระหว่างความเชื่อในเรื่องพุทธศาสนากับความเชื่อในวิทยาศาสตร์นั่นเอง
น่าเสียดายที่เนื้อหาสาระของทางฝั่งพุทธศาสนาดูเหมือนจะเป็นการจับยัดใส่ปากให้ตัวละครอ่านเอาเสียมากกว่า เลยทำให้ดูเป็นการยัดเยียดเนื้อหาให้ผู้อ่านแทน แถมยังจะทำให้ตัวละครดูไม่เป็นธรรมชาติเสียเท่าไหร่
เหมือนคาบคัมภีร์มาพูดอย่างเดียว
ผิดกับตัวละคนที่เป็นเหมือนตัวแทนของทางฝั่งวิทยาศาสตร์ที่มีการเสียดสี ประชดประชันความเป็นจริงในสังคมได้อย่างเจ็บแสบ บ่งบอกถึงบทบาทและแนวคิดของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติและแจ่มชัดมากกว่า
ถ้ามองในด้านของจุดประสงค์ที่เรื่องต้องการจะสื่อ ถือว่าดีเยี่ยมครับ
แต่ในเรื่องของความงามในการประพันธ์หรือรูปแบบการดำเนินเรื่องแล้ว ดูไม่น่าเป็นที่พอใจซักเท่าไหร่ ตัวละครที่เป็นตัวแทนของฝั่งพุทธศาสนาได้กล่าวถึงการปล่อยวางไว้มาก ทว่าบทบาทการกระทำของตัวละครตัวนั้นกลับแสดงให้เห็นถึงการยึดติดเสียอย่างนั้น
เหมือนพวกมือถือสาก ปากถือศีล
พอเข้าใจอยู่ว่าผู้เขียนคงต้องการให้ตัวละครมีมิติรอบด้าน มีทั้งดีและชั่ว แต่ความขัดแย้งในตัวเองขนาดนี้มันทำให้คำสอนต่างๆที่ออกจากปากของตัวละครตัวนี้ดูด้อยค่าลงไป
เหมือนต้องการเผยให้เห็นความอ่อนแอของฝั่งศาสนา มากกว่าจะจุดประกายให้เกิดความสนใจในสิ่งที่เทศนามาทั้งเรื่อง
ทั้งนี้ ตอนจบของเรื่องถือว่าเป็นตอนจบที่ดีตอนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเป็นการจบแบบให้ผู้อ่านคิดเอาเอง
ว่าฝ่ายใดกันแน่ที่เป้นผู้ชนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น